จากคลิปดังใน TikTok สู่การช่วยชีวิตจริง กับการใช้สัญลักษณ์ สัญญาญมือขอความช่วยเหลือสากล วันนี้ The Thaiger จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสัญญาณมือขอความช่วยเหลือสากลในการขอความช่วยเหลือ ทำอย่างไร รู้ไว้ ใช้ได้ทั่วโลกเป็นอีกครั้งที่ TikTok ช่วยชีวิตจริง ๆ หลังจากแท็กซี่ รับหนุ่มหลอนยา ควงมีดปืน เหมารถไปชลบุรี
ก่อนที่คนขับจะขอเข้าห้องน้ำโรงพัก แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการชู สัญญาณมือ เพื่อขอความช่วยเหลือสากล นำไปสู่การจับกุมที่สุด ในด้านของทางคนขับแท็กซี่ ได้เล่าถึงวิธีการขอความช่วยเหลือดังกล่าว มาจากคลิปใน TikTok ที่จะใช้สัญลักษณ์ สัญญาญมือ ขอความช่วยเหลือสากล นั่นเอง
สัญญาณมือ ขอความช่วยเหลือสากล คืออะไร ?
สัญญาณมือ ขอความช่วยเหลือสากล (อังกฤษ: Signal for Help) เป็นคำส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือคับขัน ใช้ในการขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เป็นท่าทางมือเดียวเพื่อใช้ในการแสดงสัญลักษณ์ โดยสามารถทำได้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นทั้งต่อหน้าผู้อื่น หรือแม้แต่การวิดิโอคอล เพื่อเตือนผู้อื่นว่าพวกเขารู้สึกว่าถูกคุกคามและต้องการความช่วยเหลือ
สัญญาณขอความช่วยเหลือ (Signal for Help) ดังกล่าว เริ่มต้นมาจากกลุ่มต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว สร้างขึ้นโดยมูลนิธิสตรีแห่งแคนาดา และเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2020 เป็นสัญลักษณ์สากลที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก หลังจากเครือข่ายเงินทุนสตรี (WFN) ยอมรับ
วิธีการส่ง สัญญาณมือ ขอความช่วยเหลือสากล ทำอย่างไร ?
สัญญาณมือ สามารถทำได้โดยการยกมือข้างหนึ่งขึ้นโดยเอานิ้วโป้งซุกอยู่ในฝ่ามือ จากนั้นพับนิ้วอีกสี่นิ้วลง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่านิ้วที่เหลือจับนิ้วโป้ง ได้รับการออกแบบโดยต้องการให้เป็นการเคลื่อนไหวเพียงมือเดียวอย่างต่อเนื่อง มากกว่าที่จะเป็นสัญลักษณ์ในตำแหน่งเดียว เพื่อให้มองเห็นได้ง่าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจส่ง ขุน ชานนท์ ขึ้นศาลจากกรณีที่ชนผู้ช่วยพยาบาลจนแขก เจ้าตัวยืนยันไม่กังวล เพราะยอมรับผิด ยืนยันวันเกิดเหตุไม่ได้เมา พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้นำตัว ขุน ชานนท์ หรือ นายชานนท์ อักขระชาตะ นักแสดงและพิธีกรวัย 31 ปี ส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ในฐานความผิด เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
จากที่ก่อนหน้านี้ขุน ชานนท์ ได้ขับรถชน นางสาวปรารถนา โรจนณะแก้วประเสริฐ อายุ 21 ปี ผู้ช่วยพยาบาล ขณะขี่รถจักรยานยนต์ จนได้รับบาดเจ็บแขนหัก ที่บริเวณแยกลำสาลี ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เมื่อคืนวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อนหน้านี้
โดย ขุน ชานนท์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้มาขึ้นศาล เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีขับรถเฉี่ยวชนแล้วไม่แจ้งพนักงาน ส่วนตัวไม่มีความกังวล เพราะยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งได้มีการพูดคุยเจรจา และจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย จำนวน 30,000 บาทเรียบร้อยแล้ว
‘แซน’ รับคำท้า ‘อัจฉริยะ’ จุดธูปสาบาน คดีแตงโม ยันพร้อมไกล่เกลียกรณี ‘จิน’
แซน รับคำท้า อัจฉริยะ หลังถูกท้าให้มา จุดธูปสาบาน คดีแตงโม พร้อมท้าให้อัจฉริยะมาร่วมจุดธูปด้วย สาบานทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ได้ ท้าให้ตนออกมาสาบานเรื่องคดีแตงโมนั้น ยืนยันว่าพร้อมทำตามข้อเรียกร้อง ก็ในเมื่อนายอัจฉริยะ หมดที่พึ่งทางวิทยาศาสตร์มุ่งสู่ไสยศาสตร์แทน ตนก็ไม่ติดขัด เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย แต่ขอเป็นวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
หากให้เดินทางไปที่ จ.บุรีรัมย์ คงไม่สะดวก ขอจุดธูปสาบานที่หน้าบ้านแทน แต่มีข้อแม้ว่า นายอัจฉริยะ เองก็ต้องออกมาพูดสาบานยืนยันตัวเองด้วยว่า การที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้นเป็นเพราะต้องการช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง ขอยืนยันว่า การที่ตนไม่ไปสาบาน ที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่ใช่ว่าไม่กล้า แต่ระยะทางไกลเกินไป จึงไม่สะดวก และในฐานะที่เป็นคนพุทธเหมือนกัน มองว่าวัดที่ไหนก็เหมือนกัน
นอกจากนี้ในวันเดียวกันแซนยังเดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม พร้อมกับนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ เพื่อเข้าปากคำเพิ่มเติมในกรณีที่ตนเองเคยแจ้งความเอาผิด “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” สามีของหนิง ปณิตา
ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมกับพาพยานบุคคลมาเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่า อินสตราแกรมที่โพสต์ที่เคยโพสต์ข้อความลักษณะหมิ่นประมาทตนเองนั้นเป็นของ จิน จรินทร์ จริง หลังจากที่สามีของ หนิง ปณิดา โพสต์ข้อความระบุว่า “xxxตัวจริงมันนั่งรถตู้สบายใจจัง ส่วนxxxตัวปลอมก้อไปเดินเล่นแถวบึง แถวสวนสาธารณะแทน หรืออาจจะเป็นที่มาของ ตัวเงินตัวทอง 555 2 คนพอดีเอาไปคนละชื่อ”
โดย แซน วิศาพัช กล่าวว่า ในวันนี้ได้พาพยานบุคคลอีก 1 ปาก มาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่า แอคเคาท์อินสตราแกรม ที่ จิน จรินทร์ ใช้อยู่นั้นเป็นแอคเคาท์จริง รวมถึงให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่บุคคลภายในอ่านข้อความลักษณะดังกล่าวนั้นแล้วรู้สึกอย่างไร เป็นข้อความที่มีเจตนาสื่อถึงความหมายใด ทั้งนี้ ก็เพื่อต้องการให้พนักงานสอบสวนนำความเห็นดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณา หรือ นำไปประกอบสำนวน ทั้งนี้หากมีการติดต่อขอโทษก็พร้อมพิจารณา เมื่อทำผิดแล้วกล้ายอมรับผิด ก็พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยพูดคุยกันได้ เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าไม่มีการติดต่อมาก็คงต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีตัวเราเอง
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
