แม่บุญธรรมพาเด็ก 15 ร้องสื่อ ถูกเจ้าของรีสอร์ทบังคับขายบริการ คดีเริ่มส่อพิรุธ หลัง ย่าของเด็ก เผย หลานไม่เคยให้เงิน 6,000 บาท ด้านเสี่ยเจ้าของรีสอร์ทย่องคุยกับย่า ยันไม่เคยข่มขืน กรณี หญิงอายุ 44 ปี ระบุเป็นแม่บุญธรรม นักเรียนหญิงชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ มาร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อ ระบุว่า ถูกเสี่ยเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย บังคับให้ขายบริการ เพื่อเป็นการขัดดอก ที่กู้เงินไปจำนวน 6,300 บาท เพื่อนำไปรักษาย่าวัย 70 ปี ที่ป่วยและต้องผ่าตัดเป็นการด่วน
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกต
จาก นางวรรณา ดวงมาลา ประธาน อสม.ตำบลโคกว่าน อ.ละหานทราบ ระบุว่า เด็กหญิงเป็นคนน่าสงสาร และ รับจ้างทำงานเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงปู่กับย่าที่ป่วยติดเตียง จริง แต่ข่าวที่ว่าแม่บุญธรรม พาน้องไปร้องสื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะน้องไม่เคยมีแม่บุญธรรม ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้มาก่อน กรณีนี้น่าสงสัย เช่นเดียวกับ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และตำรวจ สภ.ละหานทราย หลังเป็นข่าวก็รอให้นำตัวเด็กมาให้สอบปากคำ จนถึงเย็นเมื่อวานนี้ ก็ไม่พบว่ามีการพาเด็กมาแจ้งความ
ล่าสุด อ้างอิงข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ คดีนี้ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของรีสอร์ท เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะที่ นางไล (นามสมมติ) ย่าของน้องวัย 15 ปี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ปกติหลานไม่ค่อยอยู่บ้าน ไม่รู้ว่าไปไหน ทุกครั้งที่กลับมาจะเอาเงินมาให้ครั้งละ 500 บาท ส่วนพ่อของเด็กได้แยกทางกับแม่ชาว จ.อุบลราชธานี และได้ไปเสียชีวิตที่บ้านเกิด ส่วนพ่อไปทำงานที่กรุงเทพฯ
เคยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หมดเงินไปประมาณ 6,000 บาท เอาเงินจากที่เก็บจากเงินเบี้ยคนชรา และญาติพี่น้องเอามาให้ จ่ายเป็นค่ารักษา เมื่อถามว่าหลานไปกู้เงินมาจ่ายเป็นค่ารักษาย่า 6,300 บาท นางไลบอกว่า ได้เงินจากหลานครั้งละ 500 บาทเท่านั้น ไม่เคยได้เป็นก้อน
ย่าของน้องวัย 15 ปี ยังเล่าด้วยว่า ได้มีการพบกับ เจ้าของรีสอร์ท เดินทางมาพบที่บ้าน บอกว่า ไม่เคยข่มขืน ไม่เคยจับหลานตัวเอง และกล้าสาบาน แต่ไม่อยากจะให้เรื่องยุ่งยาก ถ้าหลานยุติการเดินเรื่อง ก็จะยกหนี้จำนวน 6,300 ให้เป็นค่าตอบแทน
อ่าน คำพิพากษาคดีหมอกระต่าย หลังศาลตัดสินจำคุก ‘นรวิชญ์’ 1 ปี 15 เดือน
อ่าน คำพิพากษาคดีหมอกระต่าย ที่มี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก เป็นผู้ต้องหา อย่างละเอียด หลังศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ก่อนที่ศาลจะลดโทษให้กึ่งหนึ่งเป็น 1 ปี 15 วัน แทน จากกรณีที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขับบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่าย หรือ แพทย์ หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล เสียชีวิต ขณะที่หมอกำลังข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้า รพ.สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวงและเขตราชเทวี กทม. จนเป็นเหตุให้หมอกระต่ายเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยในวันนี้ ศาลอาญาพิพากษาให้ จำคุก ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ในคดีหมอกระต่าย เป็นระยะเวลา 1 ปี 15 วัน และปรับเงินอีก 4,000 บาท โดยไม่มีการรอการลงอาญา ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษาโดยละเอียด ดังนี้
กรณีที่เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 65 เวลากลางวัน ส.ต.ต.นรวิชญ์ จำเลย ขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ รพ.ราชวิถี ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้า รพ.สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวง-เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเขตชุมชุนด้วยความเร็ว 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเป็นเหตุให้ พญ.วราลัคน์ ถึงแก่ความตาย
ต่อมาวันที่ 22 ก.พ. 65 พนักงานอัยการ โจทก์ ได้นำตัว ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา รวม 9 ข้อหา ได้แก่
1. นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ
2. ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
3. ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย
4. นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง
5. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย
6. ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
7. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
8. ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง
9. ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ท้ายคำฟ้อง พนักงานอัยการยังขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถจักรยานยนต์ที่พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง และมีคำขอให้ศาลเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ต้องหาด้วย โดยการริบหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของศาลว่าจะให้พักใช้เป็นระยะเวลากี่ปี
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป